วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สัปดาห์ที่ 8 เขียนบทความจากเสียงบันทึกเรื่องหน้าที่ของพ่อแม่และลูกที่ดี

สอนดีก็ได้ดี
.......คนเราเกิดมามีพ่อมีแม่คอยดูแลอบรมสั่งสอน ให้การศึกษาที่ดี เป็นที่ปรึกษาและแนะนำแต่สิ่งที่ดีๆให้เราได้เรียนรู้ เราผู้เป็นลูกก็ควรที่จะให้ความเคารพ และกตัญญูต่อพ่อแม่ ไม่ควรทำนิสัยก้าวร้าวแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควรต่อพ่อแม่ แต่พ่อแม่ก็ใช่ว่าจะทำตัวถูก ทำตัวให้ลูกน่านับถือเสมอไป ดังนั้นไม่ว่าผู้ที่เป็นพ่อแม่ หรือแม้แต่ลูก ต้องรู้และดูว่าตนเองทำหน้าที่ของตนดีแล้วหรือยัง
.......พ่อแม่ที่อยากให้ลูกกตัญญู เคารพนับถือ ก็ควรประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก บอกสอนให้ลูกรู้ว่าอะไรคือความชั่ว ความดี พร้อมทั้งมีคุณธรรม รวมทั้งควรบอกให้ลูกรู้ว่าอะไรคือหน้าที่ที่ลูกควรทำ พ่อและแม่ควรมอบการศึกษาให้กับลูกโดยเริ่มได้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่บ้าน สอนแต่สิ่งที่ดี ทั้งทางด้านความคิด และการประพฤติตน คัดสรรแต่สิ่งดีๆมอบให้ลูกเสมอ แต่ก็ไม่ควรมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ให้แต่พอดีในทุกๆเรื่อง นอกจากนี้พ่อแม่ยังต้องหาคู่ครองที่เหมาะสมให้กับลูกของตน แต่การหาคู่ครองในที่นี้ไม่ใช่การคลุมถุงชน แต่เป็นหูเป็นตาให้กับลูก ดูว่าลูกคบกับใคร มีการศึกษาไหม ดูถึงความเหมาะสม แต่ไม่ใช่กีดกันให้ลูกได้มีอิสระในการคบหากัน และอีกอย่างที่พ่อแม่ควรทำ คือการมอบมรดกให้กับลูก มอบแต่พอสมควรอีกเช่นกัน มรดกในที่นี้หมายถึงการมอบชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ความดีงาม
.......เมื่อลูกได้รับสิ่งต่างๆที่พ่อกับแม่ได้มอบให้แล้ว ก็ควรระลึกนึกถึงบุญคุณของพ่อกับแม่อยู่เสมอ เลี้ยงตอบแทนบุญคุณท่าน ช่วยงานท่านทุกอย่าง รักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูลที่ท่านได้มอบให้ และควรประพฤติตนให้สมควรแก่การได้รับสมบัติ มรดกต่างๆที่ท่านให้ แต่เมื่อพ่อแม่ล่วงลับไปแล้ว ลูกที่ดีก็ควรทำบุญให้ท่านอย่าให้ขาด
.......พ่อกับแม่ได้ชื่อว่าเป็นพระพรหมของลูก เพราะท่านมีทั้งความเมตตา คือมีความรักให้กับลูก กรุณา คือเมื่อลูกมีปัญหาก็ช่วยลูกแก้ไขปัญหา มุทิตา คือยินดีกับลูกในทุกๆเรื่อง แต่ควรยินดีแต่พอดี เพื่อที่ลูกจะได้ไม่เหลิงลืมตน และสุดท้ายคือ อุเบกขา เมื่อลูกทำผิด พ่อกับแม่ควรวางตัวเป็นกลาง เพราะฉะนั้นลูกก็ควรประพฤติตนเป็นบุตรที่ดีให้กับพ่อแม่ ให้ท่านได้ภูมิใจ และพ่อแม่ยังเป็นบูรพาจารย์ คือเป็นครูอาจารย์คนแรก ที่ฝึกสอนให้ลูกรู้จักวิธีการดำเนินชีวิตตั้งแต่พื้นฐาน มีการกินอยู่หลับนอน เดิน พูด รู้จักสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด คุณธรรม ทัศนตติ ความรู้ความเข้าใจต่อสิ่งแวดล้อม พูดสั้น ๆ ว่า ช่วยให้ลูกพัฒนาทั้งทางพฤติกรรม ทางจิตใจ และทางปัญญา อีกทั้งยังเป็นอาหุไนยบุคคล หรือที่คนไทยนิยมพูดว่า เป็นพระอรหันต์ของลูก คือ มีความจริงใจ สุจริตใจ บริสุทธิ์ใจต่อลูก รักลูกด้วยใจจริงสม่ำเสมอ ยั่งยืนตลอดไปไม่ถือสาหาความผิดพลาดของลูกต่อตัวท่าน พร้อมที่จะให้อภัย มีคุณธรรมความดีเป็นแบบอย่างให้ เป็นผู้ควรแก่ความเคารพนับถือและการบูชาพระคุณ บทบาทที่พระพุทธเจ้าทรงใช้คำว่า “ เป็นผู้แสดงโลกแก่ลูก” หรือเป็นผู้นำเสนอโลกนี้แก่ลูกนั่นเอง
แหล่งอ้างอิง...http://www.satit.su.ac.th/_satit/sms_48_6.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น